กมธ.กีฬา วุฒิสภา เชิญ 3 โจทก์สำคัญ “บิ๊กหนุ่ม” กนกพันธุ์ จุลเกษม, “กำนันแก๊” ประมุข โรจนตัณฑ์ และผู้จัดศึกไทยไฟต์ เข้าชี้แจง 26 เม.ย.นี้ หลังเกิดกรณีความขัดแย้งในวงการมวย ขณะที่บัวขาวเตรียมเชิญรอบใหม่เหตุอยู่ต่างแดน ด้าน “เจ๊มล” นฤมล ศิริวัฒน์ ยันพร้อมหยิบยกสวัสดิการนักชกเข้าหารือ ส่วน พ.ร.บ.สารต้องห้าม วุฒิสภารับหลักการแล้ว
“เจ๊มล” นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา เผยว่า หลังเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างบัวขาว ป.ประมุข หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ แชมป์ไทยไฟต์ เมื่อช่วงปลายปี 2554 กับ “กำนันแก๊” นายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข และ “อุ ป.ประมุข” นายธีระพัฒน์ โรจนตัณฑ์ หัวหน้าคณะ ทาง กมธ.กีฬาวุฒิสภา รู้สึกเป็นห่วงกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับเรื่องสิทธิประโยชน์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และเพื่อให้ประเด็นปัญหาคลี่คลายรวมทั้งศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้น กมธ.กีฬา วุฒิสภา จึงเห็นพ้องร่วมกันที่จะเชิญ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ในการประชุม กมธ.กีฬา วุฒิสภา ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2 ในวันพฤหัสบดีที่ 26 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. โดยเชิญนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้กำกับดูแลพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 แต่ถ้าหากผู้ว่าการ กกท.ติดภารกิจก็จะมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาชี้แจงแทน นอกจากนี้ยังได้เชิญ “กำนันแก๊” นายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข และนายวิษณุ อ่ำอนันต์ ผู้จัดศึกไทยไฟต์ เข้าร่วมชี้แจงด้วยเช่นกัน ส่วนบัวขาวติดภารกิจ อย่างไรก็ตาม กมธ.จะเชิญมาชี้แจงอีกครั้ง
ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา กล่าวอีกว่า นอกจากการศึกษาเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว กมธ.จะหยิบยกเรื่องสวัสดิการของนักมวยเข้ามาหารือควบคู่กันด้วย โดยเฉพาะกรณีของนักชกที่แขวนนวมนั้น กกท.จะให้การช่วยเหลืออย่างไรซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา ส่วน พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬานั้น ล่าสุดที่ประชุมวุฒิสภาได้รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว โดยวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 27 คน ขึ้นมาพิจารณา ประกอบด้วย กมธ.กีฬาวุฒิสภา 10 คน, ผู้แทนของคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา 11 คน, ผู้แทนของคณะรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์, นายกนกพันธุ์ จุลเกษม และนายแพทย์วารินทร์ ตัณฑศุภศิริ ส่วนอีก 3 คน มาจากผู้แทนของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา
คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ มีระยะเวลาในการพิจารณาร่าง 30 วัน แต่ถ้าไม่แล้วเสร็จก็สามารถขยายเวลาได้ 30 วัน โดยในวันที่ 26 เม.ย. เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา จะมีการนัดประชุมในคณะเพื่อแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ และหากการพิจารณาแล้วเสร็จก็จะส่งเรื่องไปยังที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา ซึ่งหากเห็นชอบก็จะส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเห็นชอบก็จะนำร่างพระราชบัญญัตินั้นขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมขึ้นมาเพื่อพิจารณา นางนฤมลกล่าวทิ้งท้าย
ส่วนความเคลื่อนไหวของ “บัวขาว ป.ประมุข” หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่สนามบินสุวรรณภูมิ “บัวขาว” ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปมาเก๊าร่วมกับคณะทำรายการมิราเคิลออฟไลฟ์ จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ว่า ตนยอมรับว่า ได้ทำผิดต่อ พ.ร.บ.มวยจริง แต่ยืนยันว่าทุกคำพูดที่ออกมาบนเวทีไทยไฟต์ไม่มีการเตรียมการใดๆ อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้คนมองว่า “บัวขาวฉีก พ.ร.บ.มวย” เพราะก่อนหน้านี้เคยมีนักมวยทำแบบเดียวกันมาแล้วเช่นกัน
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า การที่สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย นัดหมายให้ทางไทยไฟต์และบัวขาวมาชี้แจงในวันที่ 30 เม.ย. ตนยังไม่แน่ใจและอยากขอเวลาทำใจให้สบายขึ้นก่อนแล้วจะตัดสินใจอีกครั้ง รวมทั้งการนัดเคลียร์กับ “กำนันแก๊” นายประมุข โรจนตัณฑ์ ผู้ปลุกปั้น และ “อุ” นายธีระพัฒน์ โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่าย ป.ประมุข แต่จุดยืนของผมยังเหมือนเดิมคือ การเป็นไทจากค่าย ป.ประมุข ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ ผมไม่คิดถึงเรื่องแพ้ชนะ เพราะผมเพียงแค่อยากเสนอความรู้สึกที่แท้จริง และสิ่งที่สังคมอยากรู้เท่านั้น ตอนนี้คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง
0 ความคิดเห็น