กกท.ร่อนหนังสือถึง"พระบัวขาว"ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา

กกท.ร่อนหนังสือถึง"พระบัวขาว"ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา

115039

เจ้าหน้าที่ กกท.นำหนังสือส่งถึงพระบัวขาวไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม และรับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่ญาติเผยมีกลุ่มชายฉกรรจ์วนเวียนมาถามหาพระบัวขาว หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย

วันนี้ (17 พ.ค.)  นายสมศักดิ์ สถิตอินทราพร พนักงานเจ้าหน้าที่ กีฬามวย จังหวัดสุรินทร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาที่บ้านของพระบัวขาว เลขที่ 13 หมู่ 4 ต.เกาะแก้ว อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ เพื่อนำหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงวันที่ 3 พ.ค.55  เพื่อมามอบให้กับ นายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว ป.ประมุข อายุ 30 ปี เจ้าของแชมป์มวยไทยไฟต์ 2011 และเจ้าของแชมป์เควัน ที่ญี่ปุ่น 2 สมัย ซึงขณะนี้ได้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ กรณีที่พระบัวขาวมีปัญหาฟ้องร้อง กับนายธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวย ป.ประมุข อยู่ในขณะนี้

00

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้นำหนังสือสองฉบับ จากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งลงนามโดย นายเดช ใจกล้า ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย นายทะเบียนมวย โดยฉบับแรกเรียกให้พระบัวขาว อุปคุตโต หรือนายบัวขาว บัญชาเมฆ ไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ ได้บอกเลิกสัญญา กับค่ายมวย ป.ประมุข หลังจากที่ ได้ยื่นหลักฐานแก่คณะกรรมการกีฬามวย เมื่อวันที่ 2 พ.ค.55 และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21(2) แห่งพระราชบัญญัติกีฬามวย 2546 สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เรียกไปให้ข้อมูล ในวันที่ 22 พ.ค.2555 เวลา 13.30 น. ที่ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ตามข้อความในหนังสือระบุ "หากไม่ไปตามหนังสือเรียกฉบับนี้อีก ถือว่าท่านสละสิทธิ์คำร้องและไม่ประสงค์ที่จะดำเนินการเรื่องบอกเลิกสัญญาอีกต่อไป"

ส่วนหนังสือฉบับที่ สอง เป็นหนังสือเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากนายสมบัติ บัญชาเมฆ ได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬามวย ในรายการ ไทยไฟต์ เมดอิน ไทยแลนด์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.55 เป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 มาตรา 30 ประกอบกฎกระทรวง(พ.ศ.2545) ว่าด้วยมาตรฐาน การปฎิบัติหน้าที่และจรรยาบรรณ ของบุคคลในแวดวงกีฬามวย ข้อ 1 และข้อ 8 และระเบียบคณะกรรมการกีฬามวย ว่าด้วยการสังกัดค่าย และย้ายสังกัดค่ายมวย พ.ศ.2544 ข้อ 10 และข้อ 11 นายทะเบียน มีอำนาจเพิกถอนท่าน จึงเรียกท่านไปรับทราบข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 30 เม.ย.55 แต่ปรากฏว่า นายสมบัติ ไม่ได้ไปตามหนังสือเรียก จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21(2) แห่งพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จึงเรียก นายสมบัติ บัญชาเมฆ ไปรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 22 พ.ค.55 เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ชั้น 7 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา (อาคาร 25 ชั้น)  การกีฬาแห่งประเทศไทย หากนายสมบัติ บัญชาเมฆ ไม่ไปตามนัดถือว่า ท่านไม่ประสงค์ชี้แจงใดๆทั้งสิ้น และให้สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย พิจารณาวินิจฉัยสั่งการตามเอกสารและหลักฐานที่มีอยู่ต่อไป

ต่อมา นายทอง บุราคร ครูมวยคนแรกของพระบัวขาว และนายทองอ่อน พันธมาศ กำนันตำบลเกาะแก้ว เดินทางมารับหนังสือแทน ก่อนแจ้งว่าจะนำหนังสือไปมอบให้กับ พระบัวขาวต่อไป

11

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้นำหนังสือ ทั้งสองฉบับ มามอบให้ญาติของพระบัวขาว ซึ่งจริงๆแล้ว ต้องการจะนำหนังสือไปมอบให้พระบัวขาวโดยตรง แต่ติดขัดเรื่องที่ไม่ทราบว่าพระบัวขาวจำวัดที่วัดใด แม้จะถามญาติ และกำนันตำบลเกาะแก้วแล้วก็ตาม ซึ่งอาจเป็นเรื่องความปลอดภัยของพระบัวขาวก็ได้

ขณะที่นายทอง บุราคร ครูมวยคนแรกของพระบัวขาว ก็ไม่ยอมเปิดเผยว่า พระบัวขาวอยู่ที่วัดใด ได้แต่เผยว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีชายฉกรรจ์ 3 คน ขับรถมาวนเวียนที่บ้านถึงสองรอบ มีพฤติการณ์พิรุธ จึงไม่มั่นใจในความปลอดภัย และไม่อยากบอกว่าพระบัวขาวอยู่ที่วัดไหน.

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น