ลือสนั่นออนไลน์ "บัวขาว" ได้แต่คู่ชกอ่อนเชิง สร้างบัวขาวฟีเวอร์

ลือสนั่นออนไลน์ "บัวขาว" ได้แต่คู่ชกอ่อนเชิง สร้างบัวขาวฟีเวอร์

13518429991351843100l

ระยะนี้คงไม่มีกระแสกีฬาชนิดใดในประเทศไทยมาแรงเท่ากับ "มวยไทย" ในศึก "ไทยไฟต์" อีกแล้ว แน่นอนว่า "ฟุตซอลโลก 2012" ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันก็ไม่ยกเว้น สังเกตได้จากบทสนทนาของผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม ณ ขณะนี้

เมื่อมีโอกาสได้นั่งล้อมวงคุยกัน มักจะมีเรื่องราวการชกของ "ดำดอตคอม-บัวขาว บัญชาเมฆ" ฮีโร่นักชกบนสังเวียนไทยไฟต์ ผสมโรงอยู่ในการพูดคุยไม่มากก็น้อยอยู่เสมอ แถมบางครั้งวงสนทนาเรื่องดังกล่าวยังถูกตั้งขึ้นโดยกลุ่มสาวออฟฟิศที่ไม่น่าจะชื่นชอบมวยไทยที่เต็มไปด้วยความรุนแรงอีกต่างหากและจุดนี้เองที่นับว่าเป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีถึงกระแสความร้อนแรงของไทยไฟต์ในปัจจุบัน
13519285401351928563l

สำหรับกระแสฟีเวอร์ไทยไฟต์ที่เกิดขึ้นมาในสังคมไทย ตอนนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จมาจากการที่ทีมผู้จัดการแข่งขันสามารถดึงตัวนักชกตัวกลั่นขวัญใจแม่ยกอย่าง บัวขาว อดีตแชมป์เค-วัน 2 สมัย มาร่วมสังเวียนชิงเข็มขัดแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนในเรื่องของแสงสีเสียงที่ถูกแต่งเติมเสริมเข้ามานั้นเป็นเพียงน้ำจิ้มเพิ่มรสชาติได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีทั่วโลกถึงความเก่งกาจในการชกมวยไทยของบัวขาวว่าอยู่ในระดับสุดยอดของโลกอีกทั้งลีลาการชกยังเต็มไปด้วยความดุดันเข้าขั้นจอมโหดและอุดมไปด้วยการเอ็นเตอร์เทนคนดูรอบสังเวียนให้จับจ้องมาที่ตัวเขาอย่างไม่อาจกะพริบตาเพราะกลัวว่าจะพลาดจังหวะการออกอาวุธล้มคู่ต่อสู้ของยอดนักมวยไทยรายนี้ไปอย่างน่าเสียดาย จึงไม่น่าแปลกที่เจ้าดำดอตคอมจะมีแฟนคลับคอยตามเชียร์ตามกรี๊ดอยู่มากมายจนนับกันไม่หวาดไม่ไหวทั้งในและนอกประเทศ

แต่น่าเสียดายที่เกมการชกในช่วงหลังของบัวขาวกลับไม่สามารถหาคู่มือมาชกกับเขาได้อย่างสูสีให้แฟนๆ ได้ลุ้นกันอย่างสนุกเหมือนแต่ก่อน

มีบางคนเริ่มออกอาการเบื่อหน่ายกับการแข่งขันที่ลุ้นเพียงแค่ว่าจะน็อกในยกไหน พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าผู้จัดการแข่งขันจงใจเลือก "มวยอ่อน" มาประมือวัดเท้ากับบัวขาว

ยกตัวอย่าง "เมาโร เซอร์น่า" นักชกจากอิตาลีที่เพิ่งจะโดนไล่ถลุงจนลงไปนอนนับสิบกับพื้น เป็นต้น ขณะที่บางคนถึงกับคิดไปไกลว่าไทยไฟต์มีบทกำกับไว้แบบเดียวกับมวยปล้ำ กลายพันธุ์เป็นการแสดง เพื่อรักษาภาพความเป็นฮีโร่ไร้พ่ายของเขาเอาไว้หรือไม่กันจนว่อนโลกอินเทอร์เน็ต

13518429991351843086l

ในกรณีนี้ "นริศ ว่องประเสริฐการ" เจ้าของแบรนด์มวยชั้นนำอย่าง "Topking Boxing" หนึ่งในสปอนเซอร์ของไทยไฟต์ อธิบายว่า ในเรื่องนี้คงต้องยอมรับว่าตัวมวยเราเป็นจุดอ่อนอย่างแท้จริง เพราะในตอนนี้เรายังไม่สามารถหาคู่ชกที่มีฝีมือสูสีกับบัวขาวได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แม้ว่าในเรื่องแสงสีเสียง และการเอ็นเตอร์เทนคนดูไทยไฟต์จะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกก็ตาม

"หากมองอีกมุมในแง่การตลาดก็นับว่าเป็นเรื่องที่พอยอมรับได้ เมื่อเราชูบัวขาวให้เป็นฮีโร่ไร้พ่าย เพราะตรงนี้มันดึงดูดคนดูและสปอนเซอร์ให้เข้ามาได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว"

ด้าน "นพรัตน์ พุทธรัตนมณี" รองประธานจัดการแข่งขันขันมวยไทยไฟต์ ชี้แจงอย่างหนักแน่นว่า "เราไม่เคยมีความคิดที่จะเอานักมวยฝีมืออ่อนมาชกกับนักมวยไทย เพื่อให้คนของเราชนะและได้แชมป์เลยสักไฟต์เดียว นักมวยต่างชาติที่หลายคนเห็นว่าสู้นักมวยไทยไม่ได้เหล่านั้นมีดีกรีเป็นแชมป์ในประเทศของเขากันมาหมด ทุกคนมีศักดิ์ศรีของแชมป์สถาบันอื่นประดับอยู่ แต่เมื่อนักมวยเหล่านั้นมาชกในกติกาของมวยไทยแท้ ๆ ที่ไม่ใช่คิกบ็อกซิ่งในไทยไฟต์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะสู้นักมวยไทยที่มีอาวุธครบทั้งเข่าทั้งศอกไม่ได้ ยิ่งกับบัวขาวยิ่งแล้วเข้าไปใหญ่"

เชื่อว่าน่าจะมีบางคนที่ติดใจในเรื่องของ "มวยไทย" และ "คิกบ็อกซิ่ง" ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรถึงส่งผลในเรื่องความห่างด้านแม่ไม้มวยไทย ระหว่างนักมวยไทยกับต่างชาติได้ถึงระดับนี้

ดังนั้นก่อนที่จะไปว่ากันที่เรื่องอื่น คงต้องอธิบายกันก่อนสักเล็กน้อยว่า มวยไทย คือ การแข่งขันชกมวยที่สามารถออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้ได้ครบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมัด เท้า เข่า และศอก เพียงแต่อย่าจู่โจมเป้าเท่านั้น ขณะที่ คิกบ็อกซิ่ง คือ การแข่งขันชกมวยที่ตัดเอาอาวุธสำคัญของมวยไทยอย่าง "เข่า" และ "ศอก" ออกไปจากการแข่งขัน เพื่อลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บยามต่อสู้กันบนสังเวียน โดยส่วนใหญ่จะเป็นการแข่งภายนอกประเทศไทย เช่น เค-วัน เป็นต้น

"อย่าเอามวยไทยไปรวมกับคิกบ็อกซิ่งเด็ดขาด เพราะมันคนละอย่างกัน ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ อย่าไปติดตากับการแข่งขันเวทีอื่นในต่างประเทศ"

นพรัตน์เปิดเผยว่า มีแฟนมวยหลายคนสอบถามกันเข้ามาอย่างมากมายว่า ทำไมไทยไฟต์ถึงไม่ยอมดึงตัว "จอร์จิโอ เปโตรเซียน" ยอดนักชกชาวอิตาลี อดีตแชมป์เค-วันที่เคยชกเสมอกับบัวขาวมาก่อนหน้านี้ มาขึ้นเวทีไทยไฟต์แก้มือกันใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตามไฟต์นี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากไทยไฟต์เคยติดต่อไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอด เพราะเปโตรเซียนต้องการชกกับบัวขาวในกติกาของคิกบ็อกซิ่งเท่านั้น ทำให้ทางไทยไฟต์ไม่คิดที่จะติดต่อกลับไปอีกแล้ว

"ถึงเปโตรเซียนจะไม่มาชกกับบัวขาว แต่ทางไทยไฟต์ก็ยังคงตามหานักชกฝีมือดีที่น่าจะมีฝีมือสูสีหรือมากพอที่จะมาล้มบัวขาวได้ในกติกาของมวยไทยแท้ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะเรามองว่ามันคือกีฬาเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีแพ้มีชนะอยู่แล้ว ดังนั้นถ้ามีใครคว่ำบัวขาวได้ เรายินดีให้ขึ้นมายืนบนเวทีไทยไฟต์เสมอ เรารอคนแบบนั้นอยู่ เพียงแต่ตอนนี้เรายังไม่เจอก็เท่านั้นเอง" นพรัตน์ทิ้งท้าย

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น