บัวขาว บัญชาเมฆ ชัยชนะเริ่มที่ใจตัวเอง (เจ้าของเข็มขัดแชมป์หลายสมัย)

บัวขาว บัญชาเมฆ ชัยชนะเริ่มที่ใจตัวเอง (เจ้าของเข็มขัดแชมป์หลายสมัย)

"การชนะใจตัวเอง เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"



เจ้าของเข็มขัดแชมป์หลายสมัย บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการคว้ารางวัลชนะเลิศเค-วัน เวิลด์แมกซ์ พลิกชีวิตให้เขากลายเป็นนักมวยแถวหน้าที่ทุกคนต่างให้การยอมรับ พร้อมเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้แบบไทยด้วยการขึ้นชกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 400 ไฟต์ สะสมประสบการณ์และพัฒนาฝีมือมามากกว่า 10 ปี ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือนักมวยไทยที่ ครองหัวใจคนทั่วโลก

เริ่มต้นจากความสนุก

"ไม่ได้คาดฝันว่าผมจะได้มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะการเริ่มต้นเพียงแค่อยากสนุก และชอบเล่นกีฬา จากความสนุกเลยได้ฝึกฝน ผมเริ่มตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ พออายุ 10 กว่าเราก็ยังอยู่กับมัน ผมเกิดมาบนที่ชาวนา ยากลำบาก เกิดมาเพื่อสู้ ต้องช่วยตัวเองให้ได้ เลยเป็นแรงบันดาลใจให้ผมต้องทำอะไรด้วยตัวเอง ช่วงที่จบม.3 ตัดสินใจทิ้งเรื่องเรียน เพราะเป็นคนเรียนไม่เก่ง ใช้กำลังของตัวเองเป็นที่ยึดอาชีพแล้วกัน ก็หันมาชกมวยแบบจริงจัง หาประสบการณ์มาเรื่อยๆ อายุ 17-18 ก็เริ่มมีคนรู้จัก ติดอันดับในวงการมวย พอเริ่มตัวใหญ่อายุ 20-21 ก็มีโอกาสชกรุ่นใหญ่ เพื่อคัดมวยก้าวไปสู่มวยระดับสากล บังเอิญผมชนะในรุ่นนั้น และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปชกในรายการ เค-วัน เวิลด์แมกซ์ ปี 2004 ซึ่งเป็นรายการที่คนทั่วโลกรู้จักและให้การยอมรับ พอเข้าไปชกอะไรก็คาดไม่ถึง ผมได้เป็นแชมป์ชนะประเทศอื่นๆ ทำให้เป็นที่รู้จัก และต่อยที่ต่างประเทศตลอด ไม่ได้ต่อยที่เมืองไทยมา 8-9 ปีแล้ว คนไทยเริ่มรู้จักผมประมาณ 2 ปีก่อนในการแข่งขัน Thai Fight (ไทยไฟต์)"

งานคือซ้อม

"งานของผมคือการซ้อม ตื่น ซ้อม นี่คืองานของผม ถ้าเราบกพร่องหรือไม่รู้หน้าที่ ไม่มีวินัย นั่นหมายความว่างานของเราล้มเหลว นั่นคือความคิดและวิธีการของผม การฝึกมวยบอกตรงๆ เลยว่าไม่ง่าย บอกว่ายากก็ไม่ยากสำหรับคนที่ตั้งใจ สิ่งสำคัญอยู่ที่เราขยันและอดทนกับมันไหม เรียนรู้กับมันแค่ไหน เวลาผมซ้อมทุกคนที่เห็นก็จะถามว่า ทำไมซ้อมได้ทุกวัน ทำไมขยัน ทำไมไม่ละเลย ผมก็ไม่อยากทำหรอก มีขี้เกียจ มีเหนื่อย มีเบื่อ ทุกคนมีหมด แต่ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะใจ ร่างกายเราไม่ได้เป็นอะไร แค่เรารู้สึกว่าขี้เกียจ ไม่อยากซ้อม แต่ถ้าเรามีจุดมุ่งหมาย ไฟต์นี้ทำเพื่ออะไร ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเราคนเดียว แต่ทุกคนรอดูเราอยู่ ถ้ามัวขี้เกียจก็ไม่ได้ เอาอีกครึ่งใจหรือ 60% ของใจต่อต้านใจที่ขี้เกียจ ลุกขึ้นมาเดินหรือวิ่งนิดหน่อยให้เหงื่อออก ผมว่านั่นคือการชนะใจตัวเองแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ"

ตอบแทนประเทศชาติ

"ผมอยากทำหน้าที่ตรงนี้ ให้ทุกคนที่รอติดตามหรือแฟนมวยที่คอยให้ กำลังใจว่า ผมได้ดูคุณนะ บัวขาวสู้เพื่อประเทศ นี่คือสิ่งที่ผมได้การตอบรับจาก ทุกคน ผมก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดี เหมือนที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอดูผม สิ่งที่ผมทำทุกวันนี้เป็นการตอบแทนสังคม ตอบแทนประเทศชาติไปในตัว ผมไม่เสียดาย ที่ไม่ได้รับใช้ชาติเป็นทหาร แต่ผมได้ทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ทำให้ทุกคนรู้จักประเทศไทย อยากเรียนมวยไทย อยากเที่ยวประเทศไทย ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ไปแล้ว"